วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2556

คุณสมบัติของอิฐมอญแดงเมื่อเทียบกับ อิฐมวลเบา


                 อิฐมอญแดง VS อิฐมวลเบา

อิฐมอสแดง
ใครที่กำลังคิดปลูกบ้านใหม่และมีปัญหาในการเลือกอิฐก่อ ปัยหาค่อนข้างจะปัญหาถกเถียงกันไม่จบไม่สิ้นสำหรับคุณสมบัติของอิฐทั้งสองตัวนี้ บทความนี้ชุมชนคนรักบ้านขอเจาะลึกข้อเปรียบเทียบข้อแตกต่างดูแล้วครับว่านวัตกรรมใหม่ๆอย่าอิฐมวลเบาที่ได้รับความนิยมมากตอนตอนนี้กับอิฐมอญแดงภูมิปัญญาชาวไทยแต่ดั่งเดิมอะไรมันจะดีกว่ากันคำตอบที่ผมจะตอบนั้นมันขึ้นอยู่กับงานที่ใช้กับการรับแบบที่รองรับนั้นๆ เราของมาดูคุณสมบัติเป็นข้อไปพร้อมกันดีกว่าครับ
อิฐมวลเบา ทำมาจาก ทราย ซีเมนต์ ปูนขาว ยิปซั่ม และผงอลูมิเนียม มีฟองอากาศมากประมาณ 75%
อิฐมอญแดง ทำมาจาก ดินเหนียวปนทราย สผม แกลบ และขี้เถ้า แล้วเข้าเตาอบ (สมัยก่อนทำจากดินแม่น้ำ)

คุณสมบัติของอิฐมอญแดงเมื่อเทียบกับ อิฐมวลเบา

  • แข็งแรงทนทนกว่าอิฐมวลเบา
  • กันชื่นได้ดีกว่าอิฐมวลเบา (ใช้อิฐมวลในส่วนห้องน้ำ)
  • ราคาถูกกว่าอิฐมวลเบา
  • ก่อสร้างช้ากว่าอิญมวลเบา (ถ้าเหมาจ่ายก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร)
  • เรื่องของการเจาะยึดผนังอิฐมอญจะทำได้ดีกว่า
  • เรื่องของการเก็บเสียอิฐมวลเบาจะดีกว่ามาก
  • อิฐมวลเบากันความร้อนได้ดีกว่า
  • อิฐมวลเบาเก็บเสียงได้ดีเหมาะสมหรับงานคอนโด หอพัก

บทวิจารย์ :แล้วสรุปจะใช้อิฐแบบไหนดีเนี้ย ที่จริงข้อดีข้อเสียมันก็ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมปัจจัยอื่นๆที่ผมจะยกเปรียบเทียบให้ดูนะครับ

เรื่องของความร้อน อิฐมวลเบาราศีดีกว่าเป็นไหนๆ แต่ที่สำคัญที่ทำให้บ้านร้อนนั้นส่วนมากความร้อนรับจากมากส่วนหลังคาเป็นส่วนมากนะครับถึงจะใช้อิฐมวลเบาแต่หลังไม่กันความร้อนก็ไม่ได้ช่วยอะไร หรือใช้อิฐมวลเบาแต่บ้านตั้งอยู่กลางใจเมืองหาร่มไม้แทบไม่ได้ หรือการตั้งบ้านที่ไม่รับลม ควรดูทิศทางลมตลอดทั้งปีอีกด้วย ลมเหนือ ลมตะวันออก ลมร้อน ในแต่ละเดือน นั้นละครับนวัตกรรมสมัยใหม่แค่นั้นก็ช่วยไม่ได้ผมถึงได้บอกว่าอิฐมันเป็นเพียงปัจจัยเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้น ยังไงก็ลองเอาไปพิจรณา

โครงหลังคาสำเร็จ Roof Truss

โครงหลังคาสำเร็จรูป Roof Truss

เพราะโครงหลังคาเปรียบเมือนโครงกระดูก ภายในร่างกายที่เรามองไม่เห็น แต่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง หากขาดการดูแลกระดูกอาจจะเกิดความผุกร่อน ส่งผลกระทบต่อร่างกายโดยรวม เช่นเดียวกับหลังคาที่เราละเลย ไม่ใส่ใจ ศัตรูตัวร้ายอย่างสนิม ซึ่งเป็นตัวทำลายความแข็งแรงของโครงหลังคา ซึ่งทำหน้าที่รับน้ำหนักหลังคาบ้านทั้งผืน ก็อาจจะเข้ามากัดกินทำลายส่วนที่สำคัญที่สุดของบ้านอย่างหลังคาได้โดยไม่คาดคิด
roof1.jpgroof_copy.jpg

roof2_copy.jpg
     จากอดีตสู่ปัจจุบัน วิวัฒนาการในการขึ้นโครงหลังคาเปลี่ยนแปลงไปตามสมองของมนุษย์ ยุคแรกการทำหลังคาส่วนใหญ่ทำจากไม้เนื้อแข็งตามธรรมชาติ ทาน้ำยากันปลวก และยึดติดเข้าด้วยกันเป็นโครงโดยใช้ตะปู ต่อมาการอนุรักษ์ป่าไม้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ปริมาณไม้ที่มีคุณภาพดีพอในการใช้งานลดลง รวมทั้งราคาไม้ที่สูงขึ้น วัสดุอย่างเหล็กรูปพรรณหรือเหล็กดำ (Mide Steel) เช่น เหล็กตัวซี เหล็กกล่อง จึงได้เข้ามาทดแทนและมีบทบาทสำหรับโครงหลังคา เนื่องจากเป็นวัสดุที่ผลิตออกมาจากระบบอุตสาหกรรม สามารถควบคุมคุณภาพและปริมาณให้ได้มาตราฐานมากกว่าไม้ธรรมชาติแต่ก็ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของการทาสีกันสนิม ซึ่งต้องทาทุกครั้งก่อนติดตั้งและระหว่างการติดตั้งทำให้เสียเวลาในการติดตั้ง การควบคุมรอยเชื่อมให้เป็นไปตามมาตรฐานและประสบการณ์ ความคุ้นชินของผู้รับเหมาเป็นหลัก
turss 04_copy.jpg
   แต่ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป โครงหลังคาแบบใหม่ที่เรียกว่า โครงหลังคาสำเร็จรูป (Roof Truss) เข้ามามีบทบาทและเป็นทางเลือกให้กับเจ้าของบ้านมากขึ้น เพราะผลิตจากเหล็กกล้ากำลังสูง (High Tensile Steel) ที่เกิดจากกรรมวิธีการนำเหล็กรีดเย็น (Cool Roll Coil) และขึ้นรูปเย็น (Cold Formed) เพิ่มความสามารถในการเคลือบกันสนิมด้วยโลหะชนิดต่าง ๆ เช่น สังกะสี (Zinc) อะลูมิเนียม (Aluminium) แมกนีเซียม (Magnisium) เพื่อจะทำหน้าที่ให้สารกันสนิมมีอายุการใช้งานยาวนานตามมาตรฐานเดียวกัน จึงไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องการทาสีกันสนิม การตัด การขีดข่วน หรือการเก็บสีกันสนิมอีกครั้งหลังเชื่อม ซึ่งนอกจากจะใช้สารเคลือบ Galvanized 7220 ซึ่งเป็นสารที่ใช้เคลือบกันสนิมตามมาตรฐานแล้ว โครงหลังคายังเพิ่มสารเคลือบอีกสองตัวคือ 7275 และสารเคลือบ Aluzinc AZ150 ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทำให้เจ้าของบ้านมั่นใจได้ว่า สนิม ตัวร้ายจะไม่อาจย่างกรายมามากัดกินหลังคาบ้านของเรา
Truss_RGB_copy.jpg
  และด้วยโปรแกรมวิศวกรรมขั้นสูงสำหรับงานออกแบบโครงหลังคาโดยเฉพาะเป็นอีกจุดที่จะสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของบ้าน เพราะจะช่วยให้คำนวณการใช้วัสดุได้อย่างแม่นยำไม่มีเศษเหลือทิ้ง ภายใต้หลักการ “Optimized Design” ที่ใช้ปริมาณวัสดุอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดความแข็งแรงสูงสุด
E4_copy.jpgE1_copy.jpgE7_copy.jpgE10_copy.jpg
  การติดตั้งก็ทำได้อย่างสะดวกสบายด้วยน้ำหนักที่เบากว่าเพียงแค่6กก./ตร.ม. ในขณะที่เหล็กดำมีน้ำหนัก15กก./ตร.ม. โครงประกอบง่ายเพราะชิ้นส่วนแต่ละชิ้นทำสำเร็จพร้อมมาประกอบที่หน้างาน พร้อมรับประกัน 5 ปี ถือเป็นการก้าวข้ามความเชื่อแบบเก่าที่เจ้าของบ้านมักจะคิดว่าเรื่องของหลังคา เป็นจุดยุ่งยากที่มีเพียงแต่วิศวกรหรือผู้รับเหมาเท่านั้นถึงจะเลือกให้เราได้ แต่ในวันนี้เรามีโอกาสเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับบ้านของเราแล้วกับโครงหลังคาสำเร็จรูป ตราช้าง แล้วเราจะปล่อยโอกาสนั้นไปหรือ...

วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ประวัติส่วนตัว

นายหยก  หอมสมบัติ  สาขาวิชาเทคโนโลยีก่อสร้าง   5622831102